1. ชื่อผลงาน : แผนภาพความคิดพิชิตเรียงความ
ผู้เสนอผลงาน : นางนิภาภรณ์ สิริวัจนะ
โรงเรียนวัดโบสถ์
อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3
1.
รายละเอียดการนำเสนอผลงาน
1.1
ความเป็นมา
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ
เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย
เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ทำให้สามารถประกอบกิจธุระการงานและดำรงชีวิตร่วมกัน ในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข
และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ
เพื่อพัฒนาความรู้ ความคิด วิเคราะห์
วิจารณ์และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
ตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ภาษาไทยยังเป็นสื่อที่แสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม
ประเพณี ชีวทัศน์
โลกทัศน์และสุนทรียภาพโดยบันทึกไว้เป็นวรรณคดีและวรรณกรรมอันล้ำค่า ภาษาไทย
จึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่ การเรียนรู้
เพื่ออนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
(กรมวิชาการ. 2545 : 3)
ครูผู้สอนสอนภาษาไทยจึงควรสอนให้ผู้เรียนมีทั้งความรู้
และฝึกฝนให้เกิดทักษะทุกๆด้านทั้งการพูด การฟัง
การอ่าน และการเขียน โดยเฉพาะทักษะด้านการเขียน เป็นทักษะที่พบปัญหามากที่สุด
เนื่องจากการสอนทักษะการเขียนค่อนข้างมีปัญหาและอุปสรรค สาเหตุมาจากนักเรียนเคยชินกับการเรียนที่ตอบคำถาม ความรู้
ความจำ
และลักษณะข้อสอบก็ไม่เอื้อในการคิดและเขียน
เพราะเป็นข้อสอบแบบปรนัยเสียเป็นส่วนใหญ่
ทำให้นักเรียนขาดทักษะในการคิดและการเขียน
(ภานุวัฒน์ จิระกรานนท์. 2542 : 25)
ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ
อุทัยวรรณ ปิ่นประชาสรร (2538 : 2) ที่ว่า “การเขียนมีอุปสรรคและมีปัญหามากมาย
สาเหตุมาจากพื้นฐานการเขียนของเด็กประถมศึกษาไม่ได้รับการฝึกฝนเท่าที่ควร
นักเรียนไม่รู้จักเลือกสรรถ้อยคำในการเขียนและขาดความคิดสร้างสรรค์ จึงทำให้การเขียนขาดประสิทธิภาพ สื่อความหมายไม่เข้าใจ ขาดความคิดพิจารณา จดจำคำผิดไปใช้ ทำให้เกิดความผิดพลาด”
การสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนวัดโบสถ์ พบว่านักเรียนเขียนอธิบาย เขียนบรรยาย
เขียนแสดงความคิดเห็น
และเขียนเรียงความไม่ได้
สาเหตุมาจากการคิดไม่ออก
ไม่มีข้อมูลที่จะเขียน ใช้ภาษาถิ่น เขียนวกวน
เรียบเรียงถ้อยคำไม่ถูกต้อง
ไม่เหมาะสม
ส่งผลให้การใช้ภาษาสื่อความได้ไม่ชัดเจน ซึ่งอาจเกิดผลกระทบในด้านการสื่อสารต่อไปในอนาคต
จากปัญหาดังกล่าว ครูผู้สอนจึงหาแนวทางในการแก้ปัญหาและพัฒนาการเขียนเรียงความขึ้น
เพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานด้านการเขียนให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถเขียนเรียงความได้ตามวัยและศักยภาพของตนเอง
ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการเขียนโดยการสร้างแผนภาพความคิดขึ้น เพื่อใช้ข้อมูลจากแผนภาพมาเป็นแนวทางในการเขียนเรียงความต่อไป
1.2 แนวทางการแก้ปัญหาและการพัฒนา
จากการศึกษาปัญหาดังกล่าวครูจึงปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเรียงความ
โดยฝึกตามขั้นตอนดังนี้
1.
ฝึกแต่งประโยค
2.
ฝึกอ่านข้อความและเรื่องราว เพื่อสร้างประสบการณ์ในการใช้ภาษา
3.
ฝึกเขียนเรื่องจากภาพ
4.
ให้ความรู้หลักการและรูปแบบการเขียนเรียงความ
5.
ระดมความคิดเพื่อสร้างแผนภาพความคิดจากหัวข้อเรื่องที่กำหนด
6.
นำแผนภาพความคิดมาเขียนเรียงความ โดยจัดลำดับเนื้อหาให้เหมาะสม ซึ่งการเขียนแผนภาพความคิดจะช่วยให้นักเรียนมีข้อมูลในการเขียน มีเนื้อหาที่สมบูรณ์ และแก้ปัญหาการเขียนวกวน
2.
จุดประสงค์และเป้าหมาย
ด้านปริมาณ
1. เมื่อกำหนดหัวข้อเรียงความให้
นักเรียนสามารถเขียนแผนภาพความคิดได้ ร้อยละ 75
2. นักเรียนสามารถนำแผนภาพความคิดไปเขียนเรียงความได้ ร้อยละ 75
ด้านคุณภาพ
1. นักเรียนมีทักษะในด้านการใช้ภาษาในรูปการเขียน เช่นการเขียนอธิบาย เขียนบรรยาย
เขียนเพื่อการสื่อสารต่างๆอย่างสร้างสรรค์
เขียนด้วยลายมือที่สะอาดเป็นระเบียบ
อ่านง่าย และมีมารยาทในการเขียน
2. เมื่อกำหนดหัวข้อเรียงความให้
นักเรียนสามารถเขียนแผนภาพความคิด และนำแผนภาพความคิดไปเขียนเรียงความได้
โดยลำดับเรื่องราวและเรียบเรียงถ้อยคำได้เหมาะสมไม่เขียนวกวน มีเนื้อหาครบถ้วน
3.
กระบวนการผลิตผลงานหรือขั้นตอนการดำเนินงาน
3.1
การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม
1)
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
โดยมีกิจกรรมตามขั้นตอนดังนี้
-
ฝึกแต่งประโยค
-
ฝึกอ่านข้อความและเรื่องราว
-
ฝึกเขียนเรื่องจากภาพ
-
ให้ความรู้หลักการและรูปแบบการเขียนเรียงความ
-
สร้างแผนภาพความคิดจากหัวข้อเรื่องที่กำหนด
-
นำแผนภาพความคิดมาจัดลำดับเนื้อหาให้เหมาะสม
-
นำแผนภาพความคิดมาเขียนเรียงความ
(ทุกขั้นตอนของการเขียน จะสอดแทรกการเขียนด้วยลายมือที่สะอาด
เป็นระเบียบ สวยงาม และมีมารยาทในการเขียน)
3.2
การดำเนินการตามกิจกรรมแผนภาพความคิดพิชิตเรียงความ
1)
ศึกษาสภาพปัจจุบันของนักเรียน วิเคราะห์ผลการเรียน
2)
วางแผนดำเนินงาน
-
รวบรวมข้อมูล ปรึกษาผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูวิชาการ
ศึกษานิเทศก์
-
สร้างแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
3)
ดำเนินการกิจกรรม โดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ เป็นสื่อในการสอน
ตามขั้นตอน
4.
ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ
4.1
ผลที่เกิดตามจุดประสงค์
นักเรียนสามารถเขียนแผนภาพความคิด
และนำแผนภาพความคิดไปเขียนเรียงความได้
โดยลำดับเรื่องราวและเรียบเรียงถ้อยคำได้เหมาะสมไม่เขียนวกวน มีเนื้อหาครบถ้วน
4.2
ประโยชน์ที่ได้รับ
นักเรียนสามารถใช้ภาษาสื่อสารในรูปแบบของการเขียนได้อย่างเข้าใจ สื่อความได้ชัดเจนเรียบเรียงคำและประโยคได้เหมาะสม
ไม่ใช้ภาษาพูดหรือภาษาถิ่นในการเขียน มีมารยาทในการเขียน เขียนอย่างสร้างสรรค์ และเขียนลายมือที่สะอาดเป็นระเบียบและสวยงาม
5.
ปัจจัยความสำเร็จ/ผู้เกี่ยวข้อง/สิ่งที่ช่วยให้งานสำเร็จ
ผู้บริหาร ครูและบุคลากรในโรงเรียนวัดโบสถ์ ตลอดจนศึกษานิเทศก์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก
เขต 3 ได้เห็นความสำคัญของการสร้างสื่อ นวัตกรรมการเรียนรู้ จึงให้การส่งเสริมและสนับสนุน มีการนิเทศ
กำกับ ติดตาม แลกเปลี่ยนเรียนรู้
เพื่อนำผลมาปรับปรุง พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น
6.
บทเรียนที่ได้รับ
แผนภาพความคิดพิชิตเรียงความ
เป็นการพัฒนานักเรียนด้านการเขียน
การใช้ภาษาอย่างสร้างสรรค์ เป็นพื้นฐานให้นักเรียนได้นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้การพูด และการเขียนในการติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
7.
การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ
เผยแพร่ผลงานให้กับครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในโรงเรียน
และต่างโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ได้รับการยอมรับจากผู้บริหาร ครูผู้สอน และศึกษานิเทศก์
รางวัลที่เกิดกับนักเรียน
นักเรียนได้รับรางวัลในการประกวดการเขียนเรียงความ การประกวดคัดลายมือ
รางวัลที่เกิดแก่โรงเรียน/ชุมชน
โรงเรียนวัดโบสถ์ได้รับการยอมรับในด้านการจัดการเรียนการสอนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ผลสอบ O-net ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสูงกว่าระดับชาติ ชุมชนทั้งในและนอกเขตบริการยอมรับ ส่งบุตรหลานมาเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น